วันเสาร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2554

กิจกรรมที่ 11

      การกำหนดมาตรฐานคุณภาพของครูในการจัดการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพ ครูจะต้องทำกิจกรรม  ๗ อย่าง  คือ  ๑) การวิเคราะห์หลักสูตร  ๒) การวิเคราะห์ผู้เรียน  ๓) การจัดกิจกรรมที่หลากหลาย  ๔) การใช้เทคโนโลยีเป็นแหล่งและสื่อการเรียนรู้ของตนเองและนักเรียน  ๕) การวัดและประเมินผลตามสภาพจริงอย่างรอบด้านและเน้นพัฒนาการ  ๖) การใช้ผลการประเมินเพื่อแก้ไขปรับปรุงและพัฒนาการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้เต็มศักยภาพ   ๗) การใช้การวิจัยปฏิบัติการในการพัฒนานวัตกรรมเพื่อการเรียนรู้ของนักเรียนและการสอนของตน
      จากประเด็นดังกล่าว นักศึกษาจะนำวิธีดังกล่าวมาจัดการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพได้อย่างไร เมื่อนักศึกษาได้ลงมือปฏิบัติการเรียนการสอนให้แก่ผู้เรียนโดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ  (ข้อสอบ ๒๐ คะแนน) ยกตัวอย่างออกแบบการจัดการเรียนรู้


        
   การจัดการศึกษาให้ผู้เรียนมี  ความรู้คู่คุณธรรม  ผู้เรียนมีคุณธรรม  จริยธรรมและค่านิยมอันพึงประสงค์มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์    สังเคราะห์  และมีวิสัยทัศน์ที่ดีกว้างไกล  ดังนั้นการจัดการศึกษาจึงมีความจำเป็นและเป็นหน้าที่ที่สำคัญของโรงเรียนที่ต้องจัดการศึกษามีการส่งเสริม  และสนับสนุนให้ครูจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยจัดการศึกษาที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง  และมาตรฐานด้านปัจจัยกำหนดให้ครูมีความสามารถในการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

         ๑. เน้นให้ผู้เรียนได้เห็นประโยชน์ของสังคม   เรียนรู้ร่วมกัน มีการทำงานร่วมกัน  ฝึกฝนให้รู้จักการเทคนิคและวิธีการแก้ปัญหาด้วยตนเอง  มีอิสระและรับผิดชอบ                                                          
         ๒. ครูต้องมีการวางแผนการจัดกิจกรรม เตรียมสื่อการสอนกำกับดูและกระบวนการจัดกิจกรรม ส่งเสริมการนำความรู้ไปใช้ ดังนั้นครูจึงจำเป็นต้องมีการ เตรียมการสอนเพื่อเป็นเครื่องช่วยให้ครูได้พัฒนาการจัดกระบวนการเรียนรู้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ ไปสู่จุดประสงค์การเรียนรู้และจุดหมายของหลักสูตร
         ๓. การที่เราจะจัดการเรียนการสอนจากการสังเกต  วัดผล  ทดสอบต่างๆ  เรานำมาวิจัยดูพฤติกรรมของผู้เรียนและนำไปพัฒนานวัตกรรมสื่อใหม่ๆเพื่อการเรียนรู้และปรับปรุงการสอนให้ดีขึ้นและนำประสบการณ์มาปรับปรุงและแก้ไขแล้วนำไปใช้ในอนาคต
         


                                                                                 แผนการจัดการเรียนรู้
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย                                                                             (ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓
หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ ปฏิบัติการสายลับจิ๋ว                                                                   จำนวน ๘ ชั่วโมง
แผนการเรียนรู้ที่ ๓ เรื่อง เชี่ยวชาญความรู้                                                                        เวลา ๑ ชั่วโมง
วันที่ ..............เดือน..............  ..  ..................

มาตรฐาน ท๑.๑   ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาและสร้างวิสัยทัศน์ในการดำเนินชีวิต  และมีนิสัยรักการอ่าน
สาระสำคัญ
         การอ่านในใจเป็นการอ่านที่เข้าใจเรื่องราวได้เพียงคนเดียว ผู้อ่านต้องใช้สมาธิ สติในการอ่าน ศึกษาคำยาก  ตั้งจุดหมายในการอ่าน อ่านอย่างพินิจ พิจารณาจะทำให้จับใจความสำคัญของเรื่องที่อ่าน สามารถตอบคำถาม      ลำดับเหตุการณ์ของเรื่อง และนำไปเขียนเป็นแผนภาพโครงเรื่อง เพื่อการเล่าเรื่องและเขียนเรื่องได้
ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง
         .     อ่านในใจบทเรียนตามหลักการอ่านในใจที่ดีได้ถูกต้อง
         .    ตั้งคำถาม ตอบคำถาม จากเรื่องที่อ่านได้
สาระการเรียนรู้      
         .     อ่านในใจบทเรียน เรื่อง ปฏิบัติการสายลับจิ๋ว
         .    การตั้งคำถาม ตอบคำถามของเรื่อง
กระบวนการเรียนรู้
         .     นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละประมาณ ๔ - ๖ คน เพื่อเล่น ปริศนาคำทาย โดยครูเป็นผู้อ่านปริศนาคำทาย
         .    ร่วมกันสนทนาถึงหลักและวิธีการอ่านในใจ โดยครูแจกใบความรู้ เรื่อง การอ่านในใจ โดยให้ศึกษาหาความรู้เป็นกลุ่ม กลุ่มละ ๔-๕ คน
         .    นักเรียนฟังครูแจ้งจุดประสงค์ในการอ่านในใจ หรือผลการเรียนรู้ที่คาดหวังครั้งนี้ เช่น
                  .๑ ตั้งคำถาม และตอบคำถาม จากเรื่องที่อ่านได้
                  .๒สรุปข้อคิด และใจความสำคัญของเรื่องที่อ่านได้       
         .    แต่และกลุ่มรับใบกิจกรรมที่ ๓ เรื่อง ตั้งคำถามรวมพลังสามัคคี  และทำกิจกรรมตามใบกิจกรรม
         .    แต่ละกลุ่มทำแบบฝึกหัดที่ ๓ เรื่อง การอ่านในใจและคิดวิเคราะห์  เสร็จแล้วส่งครูตรวจ
         ๖.    ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้ และข้อคิดที่ได้จากเรื่อง ปฏิบัติการสายลับจิ๋ว โดยครูเน้นให้นักเรียนนำข้อคิดที่ได้จากเรื่องไปใช้ในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะเรื่องความสามัคคี
         .    นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยที่ ๑ ปฏิบัติการสายลับจิ๋ว
สื่อ/อุปกรณ์
         .     ปริศนาคำทาย
         .    ใบกิจกรรมที่ ๓ เรื่อง ตั้งคำถามรวมพลังสามัคคี
         ๓.   แบบฝึกหัดที่ ๓  เรื่อง การอ่านในใจและคิดวิเคราะห์
         .    แบบทดสอบหลังเรียน หน่วยที่ ๑ ปฏิบัติการสายลับจิ๋ว
แหล่งเรียนรู้
         .     ห้องสมุด
         .    ห้องเรียน
กระบวนการวัดผลประเมินผล
         .     วิธีการวัดผลและประเมินผล
                  .  การสังเกต
                          การอ่านในใจ
                  .๒ ตรวจผลงาน
                          ..  แบบทดสอบหลังเรียน
                          ..  แบบฝึกหัดที่ ๓
         ๒.   เครื่องมือประเมินผล
                  .     แบบสังเกตการอ่านในใจ
                  .    แบบประเมินการตรวจผลงานการตั้งคำถาม (ใบกิจกรรม)
         ๓.   เกณฑ์การประเมิน
                  .     สังเกตอ่านในใจ ผ่านเกณฑ์อย่างน้อยร้อยละ ๘๐
                  .    การตรวจผลงาน ผ่านเกณฑ์อย่างน้อยร้อยละ ๘๐


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น